จากหนังสือคอลัมน์ “ร้อยฝันปันศิลป์” หนังสือพิมพ์แนวหน้า
โดย พญ.นภาพร ลิมป์ปิยากร
ในสมัยโบราณ แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ศิลปะของศิลปินตะวันตกมักมาจากหัวข้อในคัมภีร์ไบเบิ้ล ทั้งนี้อาจเป็นเพราะอาชีพศิลปินต้องการผู้อุปถัมภ์ ผู้ที่มีบารมีมากพอที่จะเอื้อเฟื้อหรืออุปถัมภ์ศิลปินได้ในสมัยนั้นนอกจากกษัตริย์แล้วคงไม่พ้นผู้นำศาสนจักร ผู้ที่ติดตามผลงานด้านศิลปะตะวันตกเป็นประจำจึงพบว่า ผลงานในยุคแรก ๆ จึงไม่เพียงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระบุตร พระแม่มารีและผู้นำศาสนาเท่านั้น ยังเกี่ยวกับการสร้าง ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งอดัมกับอีฟมนุษย์คู่แรกของโลก
อย่างไรก็ดีไม่เพียงพระเจ้าจะทรงสร้างอดัมกับอีฟเท่านั้น เรื่องราวในไบเบิ้ลยังเขียนไว้ว่าพระองค์ทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลด้วย เริ่มต้นจากพระเจ้าทรงสร้างโลกหรือ The Creation of the World ศิลปินที่สร้างสรรค์งานในหัวข้อนี้คือ Giovanni di Paolo ภาพที่ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ ณ The Metropolitan Museum of Art ในกรุงนิวยอร์กนี้มีลักษณะพิเศษตรงที่ประกอบด้วยสองส่วนนั่นคือ 1) The Creation of the World and Universe หรือด้านซ้ายของภาพซึ่งมีชายสูงวัยอยู่ในท่าลอยตัวชี้นิ้วไปเหนือวงกลมที่ภายในมีรูปต้นไม้และหินอันเป็นส่วนประกอบของโลกและมีสีต่าง ๆ ล้อมรอบวงกลมอีกทีหนึ่งโดยวงรอบนอกสุดซึ่งเป็นสีฟ้ามีรูปนักกษัตริย์ 12 ราศีปรากฏอยู่ด้วยซึ่งน่าจะหมายถึงจักรวาล
2) Expulsion from Paradise หรือด้านขวาของภาพซึ่งมีภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเจรจากับนางฟ้าที่กำลังมีท่าทีผลักดัน โดยกลุ่มคนทั้งหมดมีเพียงใบไม้ปกปิดอวัยวะเพศซึ่งตีความได้ถึงช่วงที่อดัมและอีฟถูกพระเจ้าขับออกจากสวนสวรรค์จากการทำบาปครั้งแรกที่ฝ่าฝืนคำสั่งพระองค์ด้วยการแอบกินผลไม้จากต้นไม้แห่งความรู้
ในวันแรกของการสร้าง พระเจ้าไม่เพียงสร้างโลกและจักรวาล พระองค์ยังแบ่งความมืดและความสว่างออกจากกัน ภาพ The Separation of Light from Darkness ที่ปัจจุบันถูกจัดแสดงอยู่ ณ Sistine Chapel ในกรุงวาติกันนี้ Michelangelo ผู้ได้รับมอบหมายจากสันตะปาปาให้สร้างสรรค์ผลงาน Fresco ขึ้นจาก Genesis เลือกเอาตอนที่พระเจ้ากล่าวว่า โลกควรมีแสงสว่างเพราะแสงสว่างเป็นสิ่งดีงาม แสงสว่างนี้เองที่แยกเวลาของวันเป็นกลางวันและกลางคืน
ในการสร้างสรรค์ผลงานเกี่ยวกับการสร้างของ Michelangelo ณ Sistine Chapel นี้เขาได้ประดิษฐ์ชายเปลือยไว้ตามมุมภาพต่าง ๆ และขนานนามชายเปลือยเหล่านี้ว่า Ignudi
แม้ว่านักประวัติศาสตร์ศิลป์ส่วนใหญ่จะไม่แน่ใจว่า Michelangelo วาดภาพเปลือยเหล่านี้ไว้เพื่ออะไร แต่ Heinrich Pfeiffer ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ Sistine คาดเดาว่า Michelangelo คงต้องการให้ชายเปลือยเหล่านี้ทำท่าทางต่าง ๆ เพื่อตอกย้ำหรืออธิบายสิ่งที่เขาสร้างสรรค์ไว้ตรงกลาง เช่น ชายเปลือยที่อยู่ทางด้านมืดเป็นภาพของคนกำลังนอนหลับและกำลังบิดขี้เกียจราวกับเพิ่งตื่นนอนซึ่งเท่ากับเป็นการตอกย้ำถึงเวลากลางคืน
ในขณะที่ภาพของชายเปลือยที่อยู่ ณ ตำแหน่งเข่าของพระเจ้าเป็นภาพของชายที่แบกต้นโอ๊กซึ่งหมายถึงการทำงานหนักในเวลากลางวัน