จากคอลัมน์”ร้อยฝันปันศิลป์” ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า
โดย พญ.นภาพร ลิมป์ปิยากร
เมื่ออดัมและอีฟฝ่าฝืนคำบัญชาของพระเจ้าที่ห้ามมิให้ทั้งสองรับประทานผลจากต้นไม้แห่งความรู้แล้ว อดัมจึงรู้สึกผิดและหลบซ่อนตัวเพื่อมิให้พระเจ้าทรงเห็น ครั้นพระเจ้าทรงเรียกหาอดัม เขาจึงตะโกนไปว่าเขากำลังหลบซ่อนตัวเพราะเขาหลงเชื่ออีฟรับประทานผลไม้ที่พระองค์ทรงห้ามไว้ พระองค์จึงถามอีฟว่าเหตุใดจึงไม่เชื่อฟัง อีฟตอบว่างูเป็นผู้แนะนำว่าหากรับประทานผลไม้นี้ นางจะฉลาดและสามารถแยกถูกผิดได้เหมือนอย่างพระเจ้า นางจึงฝ่าฝืนคำบัญชา
พระเจ้าทรงพิโรธและทรงสาปให้งูไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป ต้องเลื้อยไปบนผงฝุ่นสกปรก อีกทั้งยังจะเป็นที่รังเกียจของสตรีและเด็กตลอดกาล สำหรับอีฟนั้น พระเจ้าก็ทรงสาปให้นางต้องได้รับความเจ็บปวดจากการคลอดบุตร และต้องรับใช้สามีตลอดชีวิต ส่วนอดัมก็ต้องได้รับความทุกข์ยากจากการขุดดินเพื่อหาอาหาร อีกทั้งยังไม่สามารถมีชีวิตนิรันดร์ได้อีกต่อไป ต้องกลับลงสู่ดินหลังจากที่เขาตาย หลังเสร็จสิ้นการลงโทษ พระองค์จึงทรงขับทั้งสองออกจากสรวงสวรรค์
ศิลปินที่เขียนรูปตอนที่พระเจ้าทรงตำหนิอดัมกับอีฟก็คือ Domenico Zampieri หรือ Domenichino ศิลปินชาวโบโลญาแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 17 ภาพ The Reproach of Adam and Eve ที่เขาเขียนขึ้นในปี 1623 ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ ณ Musee des Beaux-Arts เมือง Grenoble ฝรั่งเศสนั้นเป็นภาพที่พระเจ้าทรงพิโรธสุดขีดและทรงกล่าวตำหนิอดัมและอีฟอย่างดุเดือด
สังเกตได้จากสีหน้า ท่าทางของพระองค์ รวมทั้งภาษากายของเหล่าเทวดาตัวน้อยที่ล้อมรอบพระองค์ด้วย แต่แทนที่อดัมจะสำนึกผิด เขากลับทำท่าไม่ยี่หระและต่อล้อต่อเถียง ซ้ำยังโทษว่าเป็นความผิดของอีฟ ส่วนอีฟก็โทษว่าเป็นเพราะงูด้วย
นักประวัติศาสตร์ศิลป์เชื่อว่าภาพนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก Creation of Adam ใน Sistine Chapel ของ Michelangelo โดยเฉพาะการจัดองค์ประกอบของภาพตรงส่วนที่เป็นพระเจ้านั้น แทบจะเรียกได้ว่าเหมือนกันอย่างกับแกะเลยทีเดียว
และต้นไม้แห่งความรู้ทางด้านขวาก็เป็นต้นมะเดื่อเช่นเดียวกันด้วย
ส่วนศิลปินที่เขียนเรื่องราวของอดัมและอีฟที่ถูกขับออกจากสวนสวรรค์มีหลายคนโดยให้ชื่อต่าง ๆ กันไป อาทิ 1) Jacopo della Quercia ช่างแกะสลักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Sienese School เขาแกะสลักหินอ่อนไว้สองภาพโดยตั้งชื่อว่า a) Expulsion of Adam and Eve from Paradise ซึ่งปัจจุบันจัดแสดง ณ Ospeale della Scala เมือง Siena ดั้งเดิมนั้น ศิลปินต้องการแกะสลักภาพเพื่ออุทิศให้กับพระแม่มารี แต่ภายหลังเขาเปลี่ยนใจจึงหันมาแกะภาพนี้แทน แม้ผลงานที่หลงเหลืออยู่ชิ้นนี้จะขาดความสมบูรณ์ แต่ก็ยังคงสามารถที่จะสะท้อนให้เห็นถึงฝีมือของศิลปินได้อยู่บ้าง
b) Expulsion from the Paradise ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ ณ San Petronio เมืองโบโลญานั้นยังคงสมบูรณ์และมีรายละเอียด เช่น เส้นผม และเสื้อผ้าของเทวดาอยู่จึงเป็นเครื่องชี้ว่า Jacopo della Quercia เป็นช่างแกะสลักฝีมือดีที่สุดคนหนึ่งของยุคเลยทีเดียว
2) Paolo Giovanni ศิลปินผู้มีบทบาทสำคัญที่สุดคนหนึ่งของ Sienese School แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 14 ภาพ The Expulsion from the Paradise ที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพ The Annunciation and Expulsion from Paradise ซึ่งเขาเขียนขึ้นในปี 1435 ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ ณ National Gallery of Art กรุงวอชิงตันนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีของผลงานแนว Sienese School แต่ก็ยังมีลักษณะเฉพาะตรงที่
เขาใช้สีที่ตรงข้ามกัน สัดส่วนที่ผิดปกติ และลักษณะของการจัดโครงสร้างที่เร้าอารมณ์เพื่อบอกเล่าเรื่องราว ในภาพนี้ศิลปินต้องการเน้นเรื่องการบอกข่าวกับพระแม่มารีว่าพระองค์จะเป็นผู้ให้กำเนิดพระบุตรในไม่ช้ามากกว่า แต่เพื่อเป็นการเตือนใจให้ศาสนิกชนทราบถึงสาเหตุที่พวกเขาต้องมีพระบุตรมาไถ่บาปก็เพราะอีฟก่อบาปครั้งแรก ศิลปินจึงวาดภาพ The Expulsion from Paradise ไว้ด้วย
นอกจากภาพที่ Paolo Giovanni เขียนในปี 1435 แล้ว ในปี 1445 เขายังเขียนภาพ Expulsion from the Paradise ไว้เป็นส่วนหนึ่งของ The Creation and the Expulsion from the Paradise ซึ่งปัจจุบันจัดแสดง ณ Metropolitan Museum of Art กรุงนิวยอร์กด้วย ผู้ชมจะเห็นว่า ภาพนี้ได้รับอิทธิพลจากภาพแรกค่อนข้างมาก แม้แต่หน้าตาและกิริยาท่าทางของอดัมและอีฟก็ยังกับมาจากพิมพ์เดียวกันเลยทีเดียว
